วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552

พยายามแยกอาการหมดสติว่าเกิดจากสาเหตุอะไร

พยายามแยกอาการหมดสติว่าเกิดจากสาเหตุอะไรก่อน
1.เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงจนทำให้กะโหลกแตก ผู้ป่วยอาจมีอาการชักกระตุก หน้าซีด ตัวเย็นถ้าจับชีพจรจะพบว่าเต้นแรงและช้าในระยะแรก ในระยะต่อมาจะเต้นเร็วขึ้นแต่เบาลง ผู่ป่วยจะหายใจลึก

2.อาการหมดสติเนื่องจากการสูญเสียโลหิตหรือน้ำออกจากร่างกายจำนวนมาก จะปรากฎอาการให้เห็นได้ว่า หน้าซีด ตัวเย็น เงื่อออกมาก ชีพจรเบามากหรืออาจคลำไม่ได้เลย

3.อาการหมดสติเนื่องมาจากสมองขาดออกซิเจน จะเห็นว่าผู้ป่วยหน้าซีดจนเขียว อาจเห็นบริเวณฝีปาก เล็บมือ เล็บเท้า

4.อาการหมดสติเนื่องมาจากได้รับสารพิษต่างๆ ผู้ป่วยจะมีอาการหน้าแดง บางกรณีก็ซีด ชีพจรเต้นแรง และลึก

5.อาการหมดสตเนื่องจากโรคเบาหวาน ผู้ป่วยจะมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอาจถึง 100มก.หรือสูงกว่าอาการคือ หน้าแดงจัดผิวแห้ง

6.อาการหมดสติเนื่องมาจากลมบ้าหมู จะพบ่วาผู้ป่วยหน้าซีด บางรายอาจถึงเขียวคล้ำ ผิวซีด

7.อาการหมดสติเนื่องมาจากโรคหัวใจ เป็นเหตุให้หัวใจหยุดทำงานลงได้ ผู่ป่วยจะมรใบหน้าซีด ริมฝีปากแล้วเล็บมือเล็บเท้าเขียว อาการหมอสติเนื่องจ่ากได้รับความร้อนจัด จะมีอาการหน้าแดง ตัวร้อนหายใจจะมีเสียงดัง

8.อาการหมดสติเนื่องมาจากได้รับความเย็นจัดจะหน้าซีดออกคล้ำ ตัวเย็นชีพจรอาจเต้นเร็ว

9.อาการหมดสติเนื่องจากร่างกายได้รับความเย็นจัด

10.อาการหมดสติเนื่องจากอินซูลินเกินขนาดในร่างกาย

วิธีปฐมพยาบาล คือพยายามให้ผู้ป่วยหายใจสะดวก หากมีสิ่งใดขัดขวางทางเดินหายใจ ให้ผู้ป่วยนอนหน้าตะแคง เพื่อกันการสำลักอาเจียนซึ่งอาจจะไปอุดกั้นหลอดลมได้ คลายเสื้อผ้าให้หลวม เพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น ให้ความอบอุ่นแก่ร่างหายผู้ป่วย และใส่ผ้ากันไว้ในปากป้ดงกันการกัดลิ้นเผื่อจะมีอาการชัก และนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วนครับ

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2552

ธุรกิจเครือข่ายที่น่าสนใจ

ซื้อกินซื้อใช้ได้ปันผลคืน ที่เวปนี้
http://bossclick.com/?id=11
นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของคุณ
คนตกงานกว่า 3.6 ล้านคน
ปีหน้าคาดว่าจะมีอีก 1 ล้านคน
ยังไม่รวมนักศึกษาที่จบใหม่
ที่ต้องหางานอีก 7 แสนคน
ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2552

ย่อหนังสือน่าอ่าน 6/52

รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์ สำหรับนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2552
ชื่อเรื่อง : รางวัลป๋วย อึ๊งภากรณ์ สำหรับนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2552
ผู้แต่ง : สถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์
สำนักพิมพ์ : สถาบันป๋วย อึ๊งภากรณ์
ปีที่พิมพ์ : 2552
จำนวนหน้า : 181 หน้า
ราคา : -
เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ซี่งมีอายุไม่เกิน 45 ปีที่สามารถผลิตผลงาน
วิชาการคุณภาพสูงได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถเป็นตัวอย่างที่สร้างแรงดลใจให้แก่นักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่คนอื่น ๆ
ในการทำงานวิชาการ รางวัลนี้ริเริ่มจากดำริของ ดร.อัมมาร์ สยามวาลา และได้รับการตอบรับและความร่วมมือเป็น
อย่างดีจากสถาบันวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ชั้นนำของประเทศไทย 7 สถาบัน การมอบรางงวัลมีขึ้นทุก 2 ปี และ
หากครั้งใดไม่มีผู้มีคุณสมบัติเหมาะสม ก็จะไม่มีการมอบ ผู้ที่ได้รับรางวัลจึงเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมด้วยประการ
ทั้งปวงอย่างแท้จริง สำหรับนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ที่มีผลงานดีเด่น ในปี 2552 นี้ ผู้ได้รับรางวัลคือ ดร.กอบศักดิ์
ภูตระกูล นักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ซึ่งมีความแม่นยำและความลุ่มลึกในทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ มีความรัดกุมในวิธีวิทยา
ตลอดจนมีความสามารถในการประยุกต์ใช้วิธีการทางเทคนิคในการทดสอบแนวคิดทางทฤษฎีต่าง ๆ ได้อย่าง
เหมาะสม ไม่ฟุ่มเฟือย และมีความโดดเด่นที่สามารถตีความข้อมูลเชิงประจักษ์ที่คุ้นเคยให้เกิดมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ
และเข้าใจได้ง่าย

ศิลปกรรมพระประวัติและพระกรณียกิจ ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ชื่อเรื่อง : ศิลปกรรมพระประวัติและพระกรณียกิจ ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้จัดทำ : สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
สำนักพิมพ์ : กระทรวงวัฒนธรรม
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 205 หน้า
ราคา : -
คณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีความเห็นให้จัดแสดงภาพเขียนที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระประวัติ
และพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน พร้อมทั้งจัดพิมพ์เป็นหนังสือที่ระลึก โดยมอบหมายให้สำนักงานศิลปะ
วัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม สนองงานสร้างสรรค์ศิลปะเช่นที่ทรงโปรดเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา และ
เป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณที่ทรงบำเพ็ญประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองไว้อย่างเอนกอนันต์ให้ปรากฏแผ่ไพศาล
ทั้งนี้ได้กำหนดภาพ 84 ภาพ ตามพระชนมายุ โดยได้ศิลปินร่วมสมัยสาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรมจากทุกภูมิภาคทั่ว
ประเทศ จำนวน 84 คน ร่วมสร้างสรรค์งานศิลป์พระประวัติและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งนี้ลำดับภาพประวัติและพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ
ตามกาลเวลา
เครื่องประกอบพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ชื่อเรื่อง : เครื่องประกอบพระอิสริยยศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ผู้แต่ง : กรมศิลปากร
สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 340 หน้า
ราคา : -
กล่าวถึงพระประวัติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส
ราชนครินทร์ และข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องประกอบพระอิสริยยศขณะที่ยังดำรงพระชนม์ชีพ หนังสือนี้จัดพิมพ์เพื่อ
ทูลเกล้าฯ ถวายสนองพระมหากรุณาธิคุณ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง
วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2551

อาเซียนกับข้อตกลงการค้าเสรี
ชื่อเรื่อง : อาเซียนกับข้อตกลงการค้าเสรี
ผู้แต่ง : สมคิด พุทธศรี
สำนักพิมพ์ : กรุงเทพฯ
ปีที่พิมพ์ : 255
จำนวนหน้า : 134 หน้า
ราคา : -
กระบวนการเปิดเสรีทางการค้าเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในเวทีของความสัมพันธ์ระหว่าง
ประเทศ อาเซียนบนเส้นทางข้อตกลงการค้าเสรีประกอบด้วยสมาชิกที่หลากหลาย อาเซียนจึงต้องอยู่ในฐานะที่
ต้องรักษาผลประโยชน์ร่วมของทุกๆภาคีในการดำเนินนโยบายระหว่างประเทศใดๆ รวมถึงนโยบายการค้า เนื้อหา
ในเล่มนี้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกอธิบายภาพรวมของแนวดำเนินนโยบายของข้อตกลงการค้าเสรีของอาเซียน
รวมถึงให้ข้อมูลในชั้นต้นสำหรับข้อตกลงการค้าเสรีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน ส่วนที่สอง มุ่งพิจารณาข้อตกลง
การค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับจีน และข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับอียูเป็นการเฉพาะ ข้อตกลงทั้งสองมี
ข้อแตกต่างกันทั้งในแง่ของ ความเป็นมา เหตุผลในการเจรจา แนวทางการเจรจา ประเด็นการเจรจา ความคืบหน้าใน
การเจรจา อุปสรรคในการเจรจา ตลอดจนกระทั่งผลได้ผลเสียจากการทำข้อตกลง ครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ต้อง
มีการติดตามสานต่อเมื่อการเจรจาข้อตกลงทั้งสองลุล่วง ต่อไป

พลังบำบัด : ร่างกายคุณรักษาตนเองได้
ชื่อเรื่อง :พลังบำบัด : ร่างกายคุณรักษาตนเองได้
ผู้แต่ง : แอนดรูว์ ไวล์, ผู้เขียน ; อัปสร มีสิงห์, ผู้แปล
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์สุขภาพ
ปีที่พิมพ์ : 2552 (พิมพ์ครั้งที่ 4 ฉบับปรับปรุง)
จำนวนหน้า : 391 หน้า
ราคา : 245 บาท
นายแพทย์แอนดรูว์ ไวล์ สำเร็จการศึกษาระดับแพทยศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์
แห่งฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นแพทย์แนวหน้าผู้บุกเบิกแนวคิดเกี่ยวกับสุขภาพและความเจ็บไข้ได้ป่วยด้วย
การแพทย์ผสมผสาน โดยรวมเอาจุดเด่นต่าง ๆ ของแพทย์แผนปัจจุบันและข้อดีของการแพทย์ทางเลือกสาขาต่างๆ
เข้าด้วยกัน เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้กล่าวถึงพลังแห่งการบำบัดสุขภาพอัตโนมัติ ซึ่งทำงานตลอดเวลา เพื่อให้เรามี
สุขภาพแข็งแรง ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งหมอ พึ่งยา ผู้แต่งบอกให้รู้เท่าทันสุขภาวะและทุกขภาวะทั้งหลายที่
เกิดขึ้นในร่างกาย และรู้ว่าควรดูแลส่งเสริมระบบบำบัดสุขภาพอัตโนมัติในร่างกายและจิตใจอย่างไร เพื่อให้พลังนั้น
ทำงานได้สูงสุดส่งผลให้มีสุขภาพดีเสมอ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม 8 สัปดาห์เพื่อพลังบำบัดสูงสุด ซึ่งถ้าปฏิบัติ
อย่างครบถ้วนจะส่งผลให้พลังบำบัดทำงานได้ดีที่สุด

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552

ม.มหิดลชี้อีเมลล์ "ห้ามกินกุ้งพร้อมวิตามินซี" หลอกลวง

ขณะนี้มีการส่งต่ออีเมลลูกโซ่ที่อ้างว่า ผู้หญิงไต้หวันคนหนึ่งเสียชีวิตอย่างลึกลับจากเลือดออกทั่วร่างกาย โดยผู้เชี่ยวชาญพบว่าเกิดจากชอบกินกุ้งพร้อมวิตามินซี สารเคมีของกุ้งกับวิตามินซีจะทำปฏิกิริยากันจนกลายเป็นพิษสารหนูสะสมในร่างกาย จึงขอเตือนให้ผู้ได้รับอีเมลฉบับนี้อย่ารับประทานวิตามินซีพร้อมกุ้ง ซึ่งข้อความในอีเมลดังกล่าวมีการอ้างถึงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จนน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้อ่านจำนวนมากวิตกกังวลกับการกินวิตามินซี โดยสรุปข้อความส่วนหนึ่งได้ดังนี้"
ในอีเมลดังกล่าวยังระบุอีกว่า นักวิจัยมหาวิทยาลัยชิคาโกเคยทดลอง พบว่าสัตว์เปลือกอ่อนเช่น กุ้ง มีสารประกอบอาเซนิกเข้มข้นในปริมาณสูง สารประกอบชนิดนี้เข้าไปอยู่ในร่างกายก็ไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อรับประทานวิตามินซีพร้อมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี ทำให้สารประกอบเดิมที่มีสูตรเคมี As2O5 หรืออาเซนิกออกไซด์ซึ่งไม่มีพิษ กลายเป็นสารประกอบที่มีสูตรเคมี As2O3 หรืออาเซนิกไตรออกไซด์ ซึ่งมีพิษหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าสารหนูนั่นเอง พิษสารหนูจะทำให้เกิดอาการเลือดคั่งในหัวใจตับ ไต และลำไส้ เซลล์ผิวหนังตายด้าน เส้นโลหิตฝอยขยายตัว ดังนั้นผู้ที่รับพิษจนตาย จะมีเลือดออกทางทวารทั้งเจ็ด เพราะฉะนั้นในระยะที่รับประทานวิตามินซีต้องงดกินอาหารประเภทกุ้งเพื่อความไม่ประมาท
รศ.ดร.เอมอร วสันตวิสุทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสื่อมวลชนหลายแขนงสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างกุ้งกับวิตามินซีว่า เป็นไปตามที่อีเมลสยองฉบับข้างต้นกล่าวอ้างจริงหรือไม่ซึ่งก็ได้ค้นข้อมูลรายงานการวิจัยและรายงานวิชาการจากองค์กรอนามัยโลก ปรากฏว่าไม่พบรายงานหรือข้อมูลอ้างอิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงระหว่างปฏิกิริยาทางเคมีของการกินกุ้งกับวิตามินซีแต่อย่างใด และเมื่อปรึกษาไปยังผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากอาหารก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่อ้างถึงเรื่องนี้มาก่อน
ผอ.สถาบันวิจัยโภชนาการกล่าวต่อว่า เมื่อได้อ่านอีเมลสยองดังกล่าวอย่างละเอียดก็พบจุดน่าสงสัย 4 ประการคือ 1.ไม่มีชื่อหญิงชาวไต้หวันที่เสียชีวิต 2.ไม่มีชื่อและสถาบันของผู้เชี่ยวชาญทางนิติเวช 3.ไม่มีชื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชิคาโก และ 4.มีการอ้างปฏิกิริยาเคมีที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ทำให้เชื่อว่าเป็นเพียงอีเมลหลอกลวงที่เขียนขึ้น โดยอ้างหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ตามข้อเท็จจริงสัตว์ทะเลประเภทกุ้งจะมีสารประกอบอาเซนิกอยู่จริงแต่น้อยมาก และเป็นฟอร์มหรือรูปแบบที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกายคน นอกจากนี้ยังไม่เคยพบว่าสารประกอบวิตามินซีไปทำปฏิกิริยาทางเคมีกับสารอาหารใดในร่างกายคน
อีเมลหลอกลวงนี้อ่านแล้วดูขลังและน่าเชื่อถือ เพราะมีอ้างสูตรเคมีแบบวิทยาศาสตร์และอ้างตำแหน่งศาสตราจารย์ และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ไม่มีการเขียนชื่อจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้น สูตรเคมีที่อ้างว่าเป็นสารหนูหรืออาเซนิกไตรออกไซด์ ก็เป็นสูตรเคมีของสารหนูจริง แต่ไม่ได้เกิดจากการผสมระหว่างวิตามินซีกับการกินกุ้ง ส่วนใหญ่คนกินอาหารทะเลแล้วเกิดอาหารเป็นพิษร้ายแรง ก็จะเกิดจากสัตว์ทะเลตัวนั้นมาจากแหล่งน้ำที่สกปรก แล้วเกิดสะสมสารพิษในตัวมัน เมื่อคนกินเข้าไปร่างกายจึงได้รับความผิดปกติ และหากพิษแรงมากร่างกายก็จะขับออกมาโดยการอาเจียนทันที สรุปคืออีเมลฉบับนี้เป็นการหลอกลวง เพื่อให้คนอ่านตื่นตระหนก ไม่มีข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์เลย รศ.ดร.เอมอร กล่าวอธิบาย
เช่นเดียวกับศ.ดร.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาติ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องพิษจากอาหาร อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวยืนยันว่าไม่เคยมีงานวิชาการที่กล่าวถึงการทำปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างสารอาเซนิกในกุ้งกับวิตามินซี ซึ่งที่จริงแล้ว "อาเซนิก (Arsenic)" คือสารประกอบที่เรียกว่าสารหนู ส่วน "อาเซนิกไตร-ออกไซด์ (Arsenic Trioxide)" เป็นสารหนูที่มีส่วนผสมของออกซิเจน 3 ส่วน เรียกทั่วไปว่ายาฆ่าแมลง ถ้าจะฆ่าคนก็ต้องนำอาเซนิกไตรออกไซด์มาผสมกับอาหารหรือใส่ไปในกุ้งเพื่อให้เกิดพิษกับร่างกายอย่างฉับพลัน แม้ในกุ้งจะมีสารอาเซนิกประกอบอยู่จริงแต่ก็น้อยมากจนไม่มีพิษและจะสลายไปในกระเพาะอาหาร ส่วนวิตามินซีนั้นจะถูกดูดซึมในกระเพาะอาหาร และขับออกมากับปัสสาวะ หากร่างกายได้วิตามินซีมากผิดปกติ ในระยะยาวจะเกิดการสะสมเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ แต่ไม่ได้ไปทำปฏิกิริยาเคมีกับสารอื่นจนทำให้เสียชีวิต

วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2552

ลักษณะต้องห้ามในลายเซ็น

1.เซ็นตัดตัวเอง ห้ามเซ็นตัดตัวเองในตำแหน่งที่ 1 จะมีความหมายไม่ดีต่อสุขภาพ ร่างกาย เป็นการตัดหือทิ่มแทงตัวเอง หรือเซ็นตัดทุกตำแหน่ง ต้องแก้ไขนะ เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากสำหรับลายเซ็น เดี่ยวจะขยายความเรื่องลายเซ็นกับสุขภาพ ตัวอย่างลายเซ็นตัดตัวเอง
2.เซ็นเป็นเส้นแทง เส้นแทงมีความหมายถึงการทำร้ายตำแหน่งของตัวเอง ตัวอย่างเส้นแทงที่พบบ่อยคือ เกิดจากรูปแบบตัวอักษร ส. ศ. เกิดจากวิธีการเขียน ธ. ร. เส้นที่เกิดจากการลากตวัดมือ
3.เซ็นพยัญชนะเกินกรอบ ไม่มีอักษรส่วนเกินอกนอกเส้นกรอบ เดี๋ยวจะอธิบายเรื่องกรอบของพยัญชนะ แต่หลักการคืออย่าเขียนออกนอกกรอบและเขียนเกินตัวอักษร
4.เซ็นพันกัน อย่าเซ็นพันกัน ลายเซ็นที่มีลักษณะที่พันกันยุ่งเหยิงเหมือนเส้นด้าย เปรียบเสมือนชีวิตที่พบกับความยุ่งยาก ไม่สามารถสะสางปัญหาได้ และจะมีอุปสรรคในชีวิต ขาดระบบระเบียบ ขาดการจัดการ ระบบความคิดไม่ดี ส่วนมากลายเซ็นแบบนี้จะเป็นโรคประสาท
5.เซ็นสระยาวเกินไป อย่าลากสระยาวเกินความจำเป็น การลากสระอุ สระอู ยาวเกินไปจะบ่งบอกถึงว่า ลายเซ็นส่วนใหญ่อยู่ในโซนตํ่า สิ่งเหล่านี้จะบอกถึงเรื่องอดีตเก่า ๆ ที่ผ่านมา
6.เซ็นตัวอักษรขาด อย่าลากตัวอักษรขาด หมายความว่า เซ็นพยัญชนะเดียวแต่ยกปากกาขึ้น ทำให้ตัวพยัญชนะขาดออกจากกัน เช่น คำว่า “ปกรณ์” แบบนี้ จะทำให้พยัญชนะนำของตัวอักษรสำคัญขาด อันนี้เสียหายมาก เป็นอันตรายทีเดียว หรือย่างเช่น ทศธรรม ถ้าเขียนอย่างนี้ ความไม่สมบูรณืของตัวอักษรตัวพยัญชนะประธานก็คือความไม่สมบูรณ์ของตัวคุณเอง
7.เซ็นสระที่อยู่หน้าเป็นกำแพง อย่าเซ็นสระเป็นกำแพงกั้นตัวเอง อย่างที่อธิบายไปแล้วในวิธีการเซ็นสระ ซึ่งบางคนอาจจะเห็นว่ายุ่งยากก็สามารถตัดออกจากลายเซ็นได้ โดยไม่เสียหายอะไร
8.เซ็นกลับหลัง อย่าเซ็นกลับหลัง เช่น เซ็น ส. แทนที่จะเป็น ส. ก็เซ็นเป็น s การทำแบบนี้ทำให้ระบบต่าง ๆ ในความคิดผิดปกติ พยัญชนะขาดพลังและขาดทิศทางที่ถูกต้อง
tags : ลักษณะ ห้าม ลายเซ็น ทำนาย ดูดวง

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552

เข้าใจระบบเศรษฐกิจจากควาย

สังคมนิยม
คุณมีควาย 2 ตัว และคุณให้เพื่อนบ้าน 1 ตัว

คอมมิวนิสต์
คุณมีควาย 2 ตัว รัฐเอาไปหมดทั้ง 2 ตัว และให้นมควายคุณบ้าง

ฟาสซิสต์
คุณมีควาย2 ตัว รัฐเอาไปหมด และขายนมให้คุณบ้าง

นาซี
คุณมีควาย 2 ตัว รัฐเอาไปทั้ง 2 ตัว และยิงคุณ

บูโรแครต
คุณมีควาย 2 ตัว รัฐเอาไปทั้ง 2 ตัว ยิงตายไปหนึ่ง รีดนมตัวที่เหลือ และก็ละเลยไม่หาประโยชน์จากนมที่ได้มา

ทุนนิยม
คุณมีควาย 2 ตัว คุณขายไปหนึ่งตัว และเอาเงินซื้อพ่อควายมา ฝูงควายเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจขยายตัว คุณขายฝูงควายได้เงินมา แล้วก็เกษียณอายุตัวเอง

เอกชนอเมริกัน
คุณมีควาย 2 ตัว ขายไป 1 ตัว และบังคับให้ตัวที่เหลือผลิตนมในปริมาณเท่ากับ 4 ตัวผลิต ต่อมาก็จ้างที่ปรึกษามาวิเคราะห์ว่าทำไมควายจึงตาย

เอกชนฝรั่งเศส
คุณมีควาย 2 ตัว คุณนัดการให้มีประท้วง จราจลกีดขวางถนน เพราะว่าคุณต้องการควาย3 ตัว

เอกชนญี่ปุ่น
คุณมีควาย2 ตัว คุณออกแบบและปรับแต่ง จนมันมีขนาดเท่ากับ 1 ใน 10 ของควายขนาดธรรมดา แต่ผลิตนมได้ 20 เท่าของควายปรกติ แล้วคุณก็สร้างตัวละครการ์ตูนชื่อว่า " Buffkimon" ขายไปทั่วโลก

เอกชนเยอรมัน
คุณมีควาย 2 ตัว คุณรีเอ็นจิเนียร์มันจนมีอายุ 100 ปี กินอาหารเดือนละครั้งและรีดนมตัวเอง

เอกชนรัสเซีย
คุณมีควาย 2 ตัว คุณนับมันและพบว่ามี 5 ตัว คุณก็นับมันอีกครั้งพบว่ามี 42 ตัว และคุณก็นับมันอีกจนพบว่ามี 2 ตัว คราวนี้คุณหยุดนับและเปิดเหล้าวอดก้าอีกขวด

เอกชนสวิส
คุณมีควาย 5,000 ตัว ไม่มีตัวใดเป็นของคุณเลย แต่คุณเก็บเงินจากเจ้าของเป็นค่าดูแล

เอกชนจีน
คุณมีควาย 2 ตัว มี 300 คนรุมรีดนม คุณประกาศว่าคุณมีการจ้างงานเต็มที่ แถมควายของคุณมีผลิตผลสุดยอดและจับผู้สื่อข่าวที่รายงานสถานการณ์จริงเข้าคุก

เอกชนอินเดีย
คุณมีควาย 2 ตัว เพื่อเอาไว้เทิดทูนบูชา

เอกชนอังกฤษ
คุณมีควาย 2 ตัว ทั้ง 2 ตัวบ้าหมด ( โรควัวบ้าเป็นที่รู้จักกันครั้งแรกในอังกฤษ)

เอกชนอิรัก
ทุกคนคิดว่าคุณมีควายหลายตัว คุณบอกว่าคุณไม่มี แต่ไม่มีใครเชื่อคุณ ดังนั้นจึงถูกบอมบ์แหลกยับเยิน ถูกบุกยึดประเทศ ถึงกระนั้นคุณก็ยังไม่มีควาย แต่อย่างน้อยที่สุด ปัจจุบันคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย
เอกชนไทย
คุณมีควาย 2 ตัว ตัวหนึ่งสีแดง ตัวหนึ่งสีเหลือง วันๆ มันไม่ยอมให้น้ำนม เอาแต่วิ่งเอาเขาชนกัน จนฟาร์มคุณพังวายวอด

วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2552

amazon 3

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างหรือปล่าว

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้
ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ

คำขอขมาและอธิษฐานจิต อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้

( นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ )

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต
อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

'หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์
พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป
ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก
ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวาร
ที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติ ปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ
ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร'

คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง
(คาถาบทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้
ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ ไม่เว้นแม้กระทั้ง พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค
หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2552

ผลรางวัลหนังสือดีเด่น ประจำปี 2552

5 มีค. ที่หอสมุดแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศผลรางวัลหนังสือดีเด่น ประจำปี 2552 โดยนายพนม พงษ์ไพบูลย์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาตัดสินการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี 2552 แถลงว่า ปีนี้มีสำนักพิมพ์ หน่วยงานและผู้สนใจ ร่วมส่งหนังสือเข้าประกวดรวม 405 เรื่อง
รางวัลดีเด่นกลุ่มหนังสือสารคดี ได้แก่ "ซ่อนไว้ในสิม ก-ฮ ในชีวิตอีสาน" ของอู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย
รางวัลดีเด่นกลุ่มหนังสือรวมเรื่องสั้น ได้แก่ "จากสายน้ำสู่นคร" ของประกาศิต คนไว
รางวัลดีเด่นกลุ่มหนังสือสำหรับเด็ก อายุ 3-5 ปี ได้แก่ "ทายซิ ทายซิ นั่นตัวอะไร" ของตุลย์ สุวรรณกิจ
รางวัลดีเด่นประเภทหนังสือสารคดี ได้แก่ "เงาะป่า : วรรณคดีสัญลักษณ์แห่งรัชสมัย" ของยุพร แสงทักษิณ
และรางวัลดีเด่นกลุ่มหนังสือการ์ตูนและหรือนิยายภาพ ได้แก่ "มะเขื่องแห่งเมืองโหวกเหวก" ของอิทธิวัฐก์ สุริยมาตย์
นายพนม กล่าวต่อว่า สำหรับรางวัลดีเด่นกลุ่มหนังสือนวนิยาย กลุ่มหนังสือกวีนิพนธ์ กลุ่มหนังสือสำหรับเด็ก อายุ 6-11 ปี ประเภทหนังสือบันเทิงคดี กลุ่มหนังสือสำหรับเด็กวัยรุ่น อายุ 12-18 ปี ประเภทหนังสือบันเทิงคดี และกลุ่มหนังสือบทร้อยกลอง ไม่มีหนังสือเรื่องใดสมควรได้รับ
ด้านนายเฉลียว พันธุ์สีดา ประธานกลุ่มคณะกรรมการพิจารณาตัดสินกลุ่มหนังสือสำหรับเด็ก อายุ 6-11 ปี กล่าวว่า ปีนี้หนังสือในกลุ่มนี้ไม่มีเล่มใดได้รับรางวัลดีเด่น อีกทั้งมีจำนวนหนังสือที่ส่งเข้าประกวดน้อยมาก และหนังสือที่ส่งเข้าประกวดก็มีมาตรฐานต่ำลง จนไม่สามารถพิจารณาให้รางวัลดีเด่นได้ เช่น ไม่จัดพิมพ์ปกในตามมาตรฐานหนังสือสากล เนื้อหาของภาพไม่สัมพันธ์ หรือสอดคล้องกับเนื้อเรื่อง การสะกดวรรณยุกต์ การันต์ผิดจำนวนมาก แม้หนังสือบางเล่มจะมีเนื้อหาบันเทิง แต่เด็กในช่วงวัยดังกล่าว เป็นช่วงวัยของการจดจำ ดังนั้น จึงควรเป็นหนังสือที่มีความถูกต้องทั้งเนื้อหา และภาพประกอบ

โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ

โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า }แน่นอน~
คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง
ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง

เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน


เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้
เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้
เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ
เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน
เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ
เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป

เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา

การออมเงินในภาวะปัจจุบัน

ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง เราสามารถออมเงินได้ในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้

รูปแบบการออมเงิน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย

เงินฝากที่ ธ.พาณิชย์ไทย
0.75 % - 1.25 % (ประจำ 3 - 12 เดือน ตามวงเงินฝาก)

ทองคำแท่ง
14.25 % (เฉลี่ยจากผลตอบแทนช่วง ก.พ.51 - ก.พ.52 ซึ่งอัตราผลตอบแทนอยู่ระหว่าง 8.93 %-26.80 %) โดยถ้าซื้อ 31ต.ค.51 ราคา 12,500 บาท ขาย 28 ก.พ.52 ราคา 15,850 บาท ได้กำไร 26.80%

ตั๋วแลกเงิน ธ.พาณิชย์
1.10 % - 1.75 % (อายุ 3 - 12 เดือน ลงทุนขั้นต่ำ 0.5 ล้านบาท)

กองทุนรวมตลาดเงิน
2.59 % - 3.43 % เฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

กองทุนรวมตราสารหนี้
1.80 % - 5.27 % เฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

กองทุนรวมตราสารแห่งทุน
4.19 % - 7.93 % เฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

หุ้นในตลาดหลักทรัพย์
18.00 % - 25.00 % (ในรอบ 3 เดือน SET Index +5.67% )

พันธบัตรรัฐบาล
1.56 % - 3.66 % ตามอายุคงเหลือพันธบัตร ซื้อขายในตลาดรอง

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว
3.07 % - 8.63 % เฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ
1.31 % - 7.71 % เฉลี่ยย้อนหลัง 3 เดือน

ย่อหนังสือน่าอ่าน 5/52

ฉบับที่ 5/2552

ชื่อเรื่อง : กฎหมายขายตรงกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประเภทแชร์ลูกโซ่
ผู้แต่ง : วีระพงษ์ บุญโญภาส
สำนักพิมพ์ : นิติธรรม
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 153 หน้า
ราคา :180 บาท
เป็นหนังสือที่มีเนื้อหาครอบคลุมความเป็นมาของอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประเภทแชร์ลูกโซ่
กลโกงลักษณะต่าง ๆ อันเป็นที่มาของธุรกิจเงินนอกระบบที่สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและประชาชนเป็นการนำเสนอปัญหาการบังคับใช้และตีความกฎหมายที่ยังคงมีอุปสรรคและขัดข้องมาโดยตลอดให้เป็นไปอย่างกระชับ ประกอบด้วยข้อมูลพื้นฐานพร้อมทั้งการตีความหรือการแสดงทัศนะของผู้เขียนและบทวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมไทยเพื่อแก้ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เป็นแหล่งงข้อมูลที่รวบรวมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้แก่บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาด้านเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี และเป็นประโยชน์ต่อการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนเพื่อสร้างมาตรการในการป้องกันตนเองของธุรกิจเอกชนอีกด้วย

ชื่อเรื่อง : สรุปแนวทางการปฏิบัติราชการจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด พ.ศ. 2549
ผู้แต่ง : สำนักงานศาลปกครอง
สำนักพิมพ์ :
ปีที่พิมพ์ : 2549
จำนวนหน้า : 96 หน้า
ราคา : -
สำนักงานศาลปกครองได้สรุปหลักปฏิบัติราชการจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด พ.ศ.
2549 เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับหน่วยงานการปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการ เนื้อหาเป็นการสรุปเรียงลำดับของคดีพิพาทในมาตรา ๙ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2552 โดยแยกตามประเภทเรื่องและประเด็นพิพาท เช่น การบริหารงานบุคคล การปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน การพัสดุ การพาณิชย์ การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ การศึกษา การสหกรณ์ความรับผิดทางละเมิด และเน้นการสกัดแนวทางการปฏิบัติราชการที่มีลักษณะเป็นการทั่วไป เช่นงานทะเบียน ทรัพยากรสิ่งแวดล้อม ภาษีอากร สัญญาการปกครอง เป็นต้น และสามารถใช้เป็นบรรทัดฐานร่วมกันในการปฏิบัติงานให้
บริการแก่ประชาชน ได้โดยไม่จำกัดเฉพาะแต่หน่วยงานทางการปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทในคดีที่เกิดขึ้นเท่านั้น

ชื่อเรื่อง : จีน...มหาอำนาจโลก? : The Chinese Century
ผู้แต่ง : โอเด็ด เชนคาร์, ผู้เขียน ศิลปกร แสงสินชัย, ผู้แปล
สำนักพิมพ์ : ฐานบุ๊คส์
ปีที่พิมพ์ : 2549
จำนวนหน้า : 240 หน้า
ราคา : 260 บาท
โอเด็ด เชนคาร์ ศาสตราจารย์ด้านการบริหารธุรกิจระดับโลกผู้มีความสนใจในประเทศจีน และใช้เวลาในการศึกษาและเฝ้ามองจีนมาเกือบสามสิบปี ได้เสนอมุมมองที่หลากหลาย ครอบคลุมหลายช่วง
เวลา หลายภูมิประเทศ และหลายอุตสาหกรรม พร้มทั้งวิเคราะห์ และอธิบายถึง “การต่อสู้กับจีน” อย่างละเอียดโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ จนกระทั่งสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่เกี่ยวกับประเทศจีนออกมาสู่สายตาสาธารณะชน ผ่านทางหนังสือ The Chinese Century จีน...มหาอำนาจโลก? โดยจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้อ่าน ทั้งที่อยู่ในแวดวงเศรษฐกิจ ผู้บริหารองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งคนทั่วไปได้ศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากขณะนี้บทบาทของจีนน่าเกรงขามมากขึ้นในทุกๆ ด้าน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อชะตากรรมของเศรษฐกิจโลก

ชื่อเรื่อง : 31 เคล็ด (ไม่) ลับนักบริหาร
ผู้แต่ง : ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี
สำนักพิมพ์ : อักษรข้าวสวย
ปีที่พิมพ์ : 2550
จำนวนหน้า : 223 หน้า
ราคา : 195 บาท
รวบรวมหลักการบริหารการจัดการหรือจิตวิทยาการบริหารแบบง่าย ๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญในการ
บริหาร โดยเสนอผ่านการเล่าเรื่องพร้อมกรณีตัวอย่างเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้อยากทำตามเพื่อยกระดับคุณภาพการเป็นผู้นำ เนื้อหาเคล็ด (ไม่) ลับนักบริหารมีทั้งหมด 31 เคล็ดลับด้วยกัน อาทิเช่น รู้จักที่จะแก้ปัญหาไม่ใช่เพิ่มปัญหา ควบคุมอารมณ์โกรธของตนให้ได้ ต้องหมั่นฝึกฝนตนเองอยู่เสมอ เรียนรู้จากความผิดพลาด บริหารคุณภาพชีวิตของทั้งตนเองและลูกน้อง เป็นต้น

ชื่อเรื่อง : สอนเพื่อนให้รวย
ผู้แต่ง : สุวรรณ วลัยเสถียร
สำนักพิมพ์ : เนชั่นบุ๊คส์
ปีที่พิมพ์ : 2551 (พิมพ์ครั้งที่ 10)
จำนวนหน้า : 190 หน้า
ราคา : 165 บาท
นำเสนอกลเม็ดเคล็บลับง่าย ๆ ทั้งแง่คิดการใช้ชีวิต มุมมองดี ๆ เกี่ยวกับช่องทางการออมและลงทุน
แปลกใหม่ ที่จะนำไปสู่การสร้างผลตอนแทนและรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในทองหรือในอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งตราสารหนี้ หรือลงทุนด้วยการเล่นหุ้น รวมถึงการวางเป้าหมายการลงทุนเพื่อจะได้เก็บเงินอย่างมีความหวังและชัดเจนยิ่งขึ้น หนังสือเล่มนี้จึงเปรียบเสมือนเข็มทิศการออมและการลงทุน

ชื่อเรื่อง : ใบไม้กำมือเดียว
ผู้แต่ง : ศุภวรรณ พิพัฒพรรณวงศ์ กรีน
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์
ปีที่พิมพ์ : 2549
จำนวนหน้า : 221 หน้า
ราคา : 160 บาท
หนังสือธรรมะที่เสนอแนวคิดใหม่ของการปฏิบัติธรรม โดยใช้แนวทางเรื่องใบไม้กำมือเดียวของ
พระพุทธเจ้า มาเป็นแนวทางในการถ่ายทอดเรื่องหลัก ๆ ที่มีอยู่สองเรื่อง คือ การรู้เรื่องเป้าหมายของชีวิต และต้องรู้ว่าจะไปให้ถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างไร นั่นคือ สติปัฏฐานสี่ กับ พระนิพพาน

ชื่อเรื่อง : ฝึกใจให้แกร่ง
ผู้แต่ง : พริตเซตต์, ไพรซ์
สำนักพิมพ์ : แมคกรอ-ฮิล
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 141 หน้า
ราคา : 169 บาท
พัฒนาจุดแข็งที่อยู่ลึกข้างใน เพื่อเพิ่มศักยภาพสูงสุดในตัวคุณ ไปกับ หนังสือ “ฝึกใจให้แกร่ง” ซึ่งจะช่วยให้คุณและองค์กรผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดไปได้ คุณจะได้เรียนรู้การมองโลกจากอีก
มุมหนึ่ง มุมที่มุ่งหา “จุดแข็ง” ไม่ใช่ “จุดอ่อน” ซึ่งจะทำให้คุณเรียนรู้และค้นพบไปพร้อมๆ กันว่า ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาตัวเองและองค์กรให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ แรงขับจากข้างในนั่นเอง การฝึกใจให้แกร่งเป็นการดึงศักยภาพและความสามารถในเชิงบวกที่คุณมีมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงด้วยตัวของคุณเอง

ชื่อเรื่อง : บนเส้นทางแห่งการฝึกตน
ผู้แต่ง : เรย์, เรจินัลด์
สำนักพิมพ์ : สวนเงินมีมา
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 180 หน้า
ราคา : 150 บาท
สิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งที่เรียกกันว่า “สายธรรม (Lineage)” ซึ่งไม่ใช่หนังสือ ประเพณี หรือพิธีกรรมที่ถูกยื่นให้ต่อๆ กันมา หากเป็นประสบการณ์ตรงของการเปลี่ยนแปลงด้านในของผู้ฝึกฝน เป็นประสบการณ์การรู้แจ้งในลักษณะใดลักษณะหนึ่งที่ผู้ฝึกเริ่มรู้สึกได้ด้วยตัวเอง หนังสือ “บนเส้นทางแห่งการฝึกตน” เป็นงานรวมเล่มบทความแปลที่ได้ถักทอและร้อยเรียงเรื่องราวการเดินทาง แรงดลใจ และประสบการณ์ด้านใน ตลอดช่วงเวลากว่าสามปีที่ผู้เขียนได้อุทิศตนฝึกฝน ภาวนา และศึกษาพุทธธรรม ในการแสวงหาหนทางสะอาด สว่าง แลสงบให้แก่ชีวิต นำมาถ่ายทอดให้ผู้คนในโลกยุคใหม่ได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจถึงหลักธรรมอันล้ำค่า ท่ามกลางความมืดมิดแห่งยุคสมัย

ชื่อเรื่อง : โรคอุบัติใหม่ -- มหาภัยใกล้ตัว
ผู้แต่ง : นำชัย ชีววิวรรธน์ ... [และคนอื่น ๆ]
สำนักพิมพ์ : ThanBooks
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 183 หน้า
ราคา : 170 บาท
ให้ข้อมูลในมุมกว้างรวมไปถึงประวัติศาสตร์โดยย่อ และแนวคิดหรือทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์
ในยุคปัจจุบันที่เกี่ยวข้องกับโรคอุบัติใหม่ (Emerging Diseases) หรือโรคที่ผู้คนไม่เคยรู้จักมาก่อน และโรคอุบัติซ้ำ (Reemerging Diseases) ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงที่เคยลดความสำคัญลงบ้าง แต่กลับมาทวีความสำคัญและความรุนแรงของโรคอีกครั้งเมื่อไม่นานนี้ นอกจากนั้น ยังกล่าวถึงวิธีการรับมือกับโรคเหล่านี้ และคัดเลือกตัวอย่างของโรคมานำเสนอเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจอีกด้วย ได้แก่ โรคซาร์ส โรควัวบ้า โรคทูลารีเมีย (โรคไข้กระต่าย) และโรคสมองอักเสบเวสต์ไนล์

ชื่อเรื่อง : เบิ่งลาว ซินจ่าวเวียดนาม
ผู้แต่ง : วีรศักดิ์ เทียนธนะวัฒน์
สำนักพิมพ์ : แพรวสำนักพิมพ์
ปีที่พิมพ์ : 2551
จำนวนหน้า : 229 หน้า
ราคา : 185 บาท
เบิ่งลาว ซินจ่าวเวียดนาม เล่มนี้ เป็นการท่องเที่ยวด้วยวิธีการแบกเป้ท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่แบบ
ค่ำไหนนอนนั่นหรือไปตายเอาดาบหน้า แต่ด้วยความพร้อมสรรพทั้งข้อมูลและความตั้งใจ และเป็นการท่องเที่ยวลาวและเวียดนามสองประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่ไกลจากเรา เพื่อสัมผัสและดื่มด่ำกับธรรมชาติ ตามรอยศรัทธาตามเมืองมรดกโลกสำคัญๆ แผ่นดินที่พระพุทธศาสนาฝังรากลึกอยู่ในวิถึชีวิตจนทำให้เกิดแรงศรัทธาจากคนทั่วมุมโลกให้เดินทางมาที่นี่ และเป็นการเที่ยวต่างประเทศที่ไม่จำเป็นต้องนั่งเครื่องบินก็ได้ เพราะทั้งสองเส้นทางในหนังสือเล่มนี้มีแม่น้ำโขง มหานทีสายสำคัญแห่งเอเชียเป็นองค์ประกอบ เมื่ออ่านจบแล้ว ก็สามารถหยิบเป้ เก็บกระเป๋า เริ่มออกเดินทางได้สบายๆ ภายในเล่มยังประกอบด้วยภาพแหล่งท่องเที่ยว แผนที่ และเกร็ดเล็กเกล็ดน้อยที่น่าสนใจของ
ทั้งสองประเทศ